ความประทับใจที่มีต่อโรงเรียนอนุบาลช้างเผือก
เมื่อมีน้องร็อคโค่ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ คุณแม่ได้ลาออกจากงานประจำเพื่อเลี้ยงดูน้องเต็มเวลา คุณแม่มือใหม่ เลี้ยงเด็กแบบไม่มีประสบการณ์ ลองผิดลองถูก และเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่เคยอ่านนิทานให้ลูกฟัง มีแต่ความเครียดเมื่อลูกร้องไห้ รู้สึกว่าน้องร็อคโค่ร้องไห้โยเยมากเกินวัย จึงไปหาหมอพัฒนาการเด็กเพื่อปรึกษาและประเมิน ว่าน้องหรือแม่ มีปัญหาที่ควรปรับหรือแก้ไขอย่างไรได้บ้างคุณแม่พบว่าสื่อสารกับลูกน้อยไป นั่นคือคำที่จุดประกายว่าทำไม เราทำให้ดีกว่าเดิมได้ ทำให้ดีที่สุด เป็นแม่ที่ดีที่เยี่ยมกว่านี้ได้ จากนั้นคุณแม่อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก และค้นคว้าด้วยตัวเองตามอินเตอร์เน็ท และเพจสอนเลี้ยงลูกต่างๆ
แม่เลี้ยงน้องเองจนกระทั้งน้องอายุ 3 ขวบ ถึงเวลาที่จะต้องมองหาโรงเรียนวัยอนุบาลให้น้องแล้ว ปัจจัยแรกเลย คือต้องใกล้บ้าน และสอง ต้องเป็นโรงเรียนที่เหมือนบ้าน ให้น้องมีความสุขกับการไปโรงเรียนทุกวันและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม่ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าอะไรคือโรงเรียนทางเลือก จนวันแรกได้พบและสัมภาษณ์กับครูอั๋น และ ครูเกด แม่พบว่านาฬิกาชีวิตของเด็กมีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กมาก แม่ได้รับความรู้จากผู้เปี่ยมประสบการณ์ พบว่าปัจจัยต่างๆรอบตัวเด็ก เช่น ผู้ปกครอง ,ผู้เลี้ยง , การกินอาหาร, เวลานอน , เวลาตื่น , เวลาเล่น, เวลาพักผ่อน, เวลาไปเที่ยว มันส่งผลต่อพัฒนาการเด็กอย่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน Small things could make impact! ช้างเผือกเป็นโรงเรียนแรกในลิสต์ที่จะไปเยี่ยมชม ปรากฏแม่ตัดสินใจเลย ต้องเป็นช้างเผือก! ยังไม่ทันไปเยี่ยมชมโรงเรียนอื่นเลยค่ะ ^^
3 ปีที่ผ่านมารู้สึกตื้นตันอย่างไรบอกไม่ถูก ช้างเผือกเปลี่ยนนิสัยให้แม่รักการอ่านมากขึ้น อ่านนิทานให้น้องฟัง พร้อมต้องตอบคำถามอีกหลายข้อมากจากนิทานแต่ละเรื่องที่ได้อ่านให้เขาฟัง พัฒนาจนมาเป็นกิจกรรมของครอบครัว ที่ต้องมีทุกวัน วันละหลายๆครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ การเล่านิทานเปิดทางให้แม่ได้ใกล้ชิดน้องมากขึ้น แม่สอดแทรก สิ่งที่เราอยากสอนและอยากบอกน้องลงไปในนิทานด้วย บางครั้งเราไม่ต้องใช้หนังสือนิทานเลย สามารถสมมติเรื่องราว ตัวละครต่างๆขึ้นมาและค่อยๆเล่าให้เขาฟังพร้อมชักชวนให้เขาเล่าต่อ กลายเป็นนิทานเรื่องเดียวในโลกที่แต่งโดยเราสองคน ^^
แม่พบว่าน้องมีพัฒนาการสมวัย ร่าเริง แจ่มใส พูดเก่ง และที่สำคัญที่สุด มีความสุขทุกวันเมื่อได้ไปโรงเรียน น้องไม่มีเพื่อนรักแบบวัยแม่ที่มีเพียงคนเดียว แต่น้องไล่ชื่อมามันคือทั้งชั้นเรียนเลย ^^ และไม่ใช่แค่น้อง ตัวแม่เองก็ได้รับมิตรภาพที่อบอุ่นที่สุดจากครอบครัวช้างเผือกค่ะ ขอบคุณที่รักลูกของแม่จนเผื่อแผ่มาถึงแม่ด้วย ขอบคุณที่คุณครูและผู้ปกครองทุกคนช่วยเหลือ ใส่ใจ กิจกรรม Family Trip , ทัศนศึกษา , การทำบุญตักบาตร ช่วยให้มิตรภาพเราแน่นแฟ้น แม่เชื่อว่าถึงแม้เรียนจบกันไปแล้ว แต่มิตรภาพของเรายังคงอยู่ตลอดไปไม่มีเสื่อมคลายค่ะ
แม่โอ๋ พัชรจันท์ ศรีประเสริฐ
ผู้จัดการส่วนเลขานุการและการตลาด บจก.รปภ.กัทส์ อินเวสติเกชั่น
คุณแม่ น้องร็อคโค่ เด็กชาย พชร เพรสตั้นไนท์ ห้องรากแก้ว
พฤศจิกายน 2559