โรงเรียนอนุบาลช้างเผือกเห็นว่าประชาธิปไตยต้องถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเด็กๆ จนเกิดเป็นนิสัยทั้งที่บ้านและโรงเรียนจนกลายเป็นวิถีประชาธิปไตย
โรงเรียนอนุบาลช้างเผือกเห็นว่าประชาธิปไตยต้องถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเด็กๆ จนเกิดเป็นนิสัยทั้งที่บ้านและโรงเรียนจนกลายเป็นวิถีประชาธิปไตย ซึ้งเน้นหลัก ๓ เรื่อง
๑.ปลูกฝังพฤติกรรมเรื่องการแสดงความเคารพเทิดทูนต่อสถาบันหลักของชาติ และการแสดงความเคารพทั้งกาย วาจา และใจในบุคคลแต่ละวัย
๒.ปลูกฝังพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความรัก ความสามัคคี และไม่เห็นแก่ตัว
๓.ปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ปัญญาในการคิด การกระทำและการช่วยแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดการพัฒนาความรู้เชิงสร้างสรรค์อย่างสันติ
เบอร์ ๑ พรรคทำได้ หัวหน้าพรรค พี่จีนห้องรากแก้ว ด.ช.กฤตนนท์ แปดนัด
นโยบาย
๑.ช่วยน้องเก็บกระเป๋า
๒.ช่วยรักษาและทำความสะอาดโรงเรียน
๓.ช่วยเก็บของหายประกาศคืนเจ้าของ
เบอร์ ๒ พรรคช่วยช่วยน้อง หัวหน้าพรรค พี่ปัณณ์ห้องรากแก้ว ด.ช.ปัณณวิชญ์ สินธุวาทิน
นโยบาย
๑.รดน้ำต้นไม้
๒.ตกแต่งโรงเรียน
๓.ส่งน้องที่ห้อง
๔.แบ่งของเล่นให้น้อง
๕.ช่วยน้องวาดรูป
๖.ช่วยเก็บของเล่น
๗.ธนาคารกล่องนม
เบอร์ ๓ พรรครักน้อง หัวหน้าพรรค พี่ทันทันห้องรากแก้ว ด.ช.ทศวัชร โชติษฐยางกูร
นโยบาย
๑.พาน้องเดินเล่น
๒.ป้อนอาหารเช้า
๓.พาน้องออกกำลังกาย
๔.ทาสีรั้ว
๕.ปลูกผักสวนครัว
๖.ช่วยประหยัดพลังงาน
๗.ล้างกล่องนมทุกวัน
๘.พูดเสียงตามสาย
หลังจากคณะกรรมการของแต่ละพรรคช่วยกันคิดนโยบายเสร็จแล้ว ก็ออกหาเสียงกันอย่างสนุกสนานได้รับความสนใจจากจากพี่ ๆ น้อง ๆ เป็นอย่างดี. แต่ละพรรคคิดเพลงและท่าเต้นประจำพรรค เพื่อให้น้องๆจำได้ง่ายที่สุด. เกิดความสามัคคีในกลุ่มช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้นและพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง. เด็กๆทุกคนมาโรงเรียนแต่เช้าด้วยความตื่นเต้นและภูมิใจที่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต.
พี่จีนห้องรากแก้ว ด.ช.กฤตนนท์ แปดนัด "พรรคทำได้" ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานนักเรียน ประจำปีการศึกษา๒๕๕๖ และ พี่ปัณณ์กับพี่ทันทัน เป็นรองประธานนักเรียน. ชัยชนะไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดแต่เป็นกระบวนการที่ได้ทำงานร่วมกันของทุกคน จนเกิดความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูล รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
การสะท้อนอารมณ์หลังการเลือกตั้งของห้องพี่รากแก้ว คือการเริ่มต้นเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความหมายในสังคมแบบประชาธิปไตยในวัยอนุบาล