ครอบครัว น้องชัญญา

ความประทับใจต่อโรงเรียนอนุบาลช้างเผือก

เมื่อถึงวัยที่ลูกจะต้องเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนแนวต่างๆ จนได้คำตอบว่า เราจะมุ่งมาทางโรงเรียนแนว “ทางเลือก” จากนั้น ครอบครัวเราก็เริ่มหาข้อมูล เจาะลึกลงไปว่า มีโรงเรียนอะไรบ้าง ที่อยู่ไม่ไกลบ้านเรา แต่โรงเรียนทางเลือกส่วนใหญ่ มักจะอยู่ไกลมากกกกกกก พ่อกับแม่คิดดูแล้ว ลูกคงจะเหนื่อยกับการเดินทางน่าดู ระหว่างนี้ เราก็ไปดูโรงเรียนต่างๆ (แนวอื่น) ใกล้บ้าน ไปดูมาเกือบ 10 โรงเรียน ก็ยังไม่ถูกใจ ด้วยความที่เราเลี้ยงลูกแบบ ไม่ให้ดูโทรทัศน์และข้องเกี่ยวกับสื่ออิเล็กโทรนิคส์ ไม่ให้ทานขนม (กรุบกรอบ และเบเกอรี่) รวมถึงน้ำหวาน น้ำอัดลมต่างๆ ยิ่งทำให้ปัจจัยในการเลือกโรงเรียนให้ลูก แลดูถูกจำกัดแคบลงเรื่อยๆ คุณแม่ปรึกษาเพื่อนคุณแม่ซึ่งเรียนด้านการศึกษาปฐมวัย เพื่อนจึงแนะนำ ให้ลองไปดู “โรงเรียนอนุบาลช้างเผือก” แม้ว่าจะไม่ได้ใกล้บ้านเรามาก แต่เราก็ลองไปเยี่ยมชมดู

ความประทับใจแรก คือ เราได้พบกับครูป๊อป (คุณครูยิ้มแย้มแจ่มใสมากค่ะ)คุณครูพูดคุยถึงแนวทางเบื้องต้นของโรงเรียน (ในใจคุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่า อื้มมม มาถูกที่แล้วเรา) จากนั้นครูกิ๊ฟก็พาชมโรงเรียน คุณพ่อและคุณแม่ ประทับใจโรงเรียนอนุบาลช้างเผือกมาก ทั้งสภาพแวดล้อม ที่ดูอบอุ่น เสมือนเป็นครอบครัวเล็กๆ ห้องเรียนไม่ติดแอร์ (เด็กจะได้ปรับตัวให้เคยชินกับสภาพอากาศภายนอก และไม่ติดหวัดง่าย) จำนวนนักเรียนต่อคุณครูแต่ละห้อง ทำให้คุณครูดูแลเอาใจใส่นักเรียน ได้อย่างทั่วถึง โภชนาการ ไม่ให้เรียนหนังสือและมีการบ้านตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก แต่ให้เรียนเมื่อเด็กมีความพร้อม และที่สำคัญที่สุด ไม่ใช้โทรทัศน์และสื่ออิเล็กโทรนิคส์ต่างๆ เป็นสื่อการเรียนการสอน

หลังจากปรึกษากัน เราก็ตัดสินใจ พาลูกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวช้างเผือก แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ เราประทับใจตั้งแต่ผู้บริหารของโรงเรียน ซึ่งเอาใจใส่และใกล้ชิดกับผู้ปกครอง พร้อมแนะนำและรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ คุณครูทุกท่านซึ่งเอาใจใส่ และเอ็นดูนักเรียนทุกคน เห็นได้ชัด ตอนแรกๆที่ลูกไปโรงเรียน เด็กทุกคนย่อมร้องไห้ เนื่องจากต้องห่างจากบ้าน มาโรงเรียนซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่คุณครูก็ใส่ใจกับความรู้สึกของเด็ก และพยายามทำให้เด็กรักและมีทัศนคติที่ดีกับการมาโรงเรียน คุณครูไม่เพิกเฉยเมื่อเด็กร้องไห้ แต่คุณครูกลับปลอบโยนอย่างเอ็นดู ให้ความรักความอบอุ่นกับเด็กอย่างมีไมตรีจิต บุคลากรท่านอื่นๆ ของโรงเรียนก็ช่วยกันสอดส่องดูแลเด็กนักเรียนทุกคน นอกจากนี้ ทางโรงเรียนมีการสื่อสาร อย่างสม่ำเสมอกับทางบ้าน ผ่านทางสมุดบันทึกประจำวัน ทำให้ทางบ้านทราบถึงพัฒนาการ และกิจกรรมของลูกในแต่ละวัน ทางบ้านชอบแนวทางการเรียนการสอนของโรงเรียน ที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และฝึกวินัย แทรกการเรียนภาษาและวิชาการต่างๆ ผ่านการทำกิจกรรม และบทเพลง ได้อย่างละเมียดละไม ให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทางด้านร่างกาย

ทุกวันนี้ ลูกมีความสุขที่ได้ไปโรงเรียน สนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ ลูกช่วยเหลือตนเองในเรื่องพื้นฐาน ตามวัยได้เป็นอย่างดี มีพัฒนาการด้านร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ทางครอบครัว ขอขอบคุณผู้บริหารและคุณครูทุกท่าน สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับเด็กในช่วงปฐมวัย

คุณแม่น้องชัญญา