ครอบครัว "น้องกู๊ด ห้องต้นกล้า"

ความประทับใจที่มีต่อโรงเรียนช้างเผือก โดยคุณแม่น้องกู๊ด

หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ไปดูโรงเรียนแนวหน้าแถวบ้านอยู่ซักพัก ก็ยังไม่มีโรงเรียนไหนที่เรา 2 คนไม่ติ (เรื่องมากนิดหน่อย) เรามาลงเอยที่โรงเรียนช้างเผือก เพราะช้างเผือกเป็นโรงเรียนที่ไม่ใหญ่ การดูแลน่าจะทั่วถึง บรรยากาศก็ร่มรื่น เน้นธรรมชาติ แอร์ก็ไม่มี เชื้อคงไม่แพร่กระจาย (ซึ่งตอนแรกแอบห่วงลูกนิดนึง กู๊ดเป็นเด็กขี้ร้อนและแพ้เหงื่อ แต่อยู่ไปเขาก็ปรับตัวได้เอง )  ลักษณะการเรียนการสอนก็เป็นแนวบูรณการไม่เร่งรัด

แต่พอได้สัมผัสมากขึ้นก็ยิ่งประทับใจ เพราะโรงเรียนนี้ เริ่มตั้งแต่ครูใหญ่เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ และทัศนคติที่ดีที่จะพัฒนาเด็กเยาวชนของชาติอย่างจริงจัง  ส่วนครูท่านอื่นในโรงเรียน ค่อนข้างเป็นคนที่ทุ่มเท อดทน สละเวลา และเป็นผู้ให้ ทำงานกับเด็กด้วยใจจริงๆ ถ้าไม่มีใจทำไม่ไหวแน่ เพราะนอกจากจะทำหน้าที่สอนเด็กๆ เตรียมการสอนแล้ว ครูต้องมีเวลาในการเข้าอบรมสารพัดคอร์ส.............. ไม่ใช่แต่ครูเท่านั้นที่ต้องไปอบรม ยังมีนโยบายอบรมพ่อแม่อีกด้วยเพื่อให้ เข้าใจแนวทางและวิธีการ จะได้สอนไปในแนวเดียวกับโรงเรียน

ตอนน้องกู๊ดเข้าเรียนปีแรก ห้องต้นน้ำ โรงเรียนขอให้คุณแม่สมัครเข้าอบรมกับครูพบ 10 ครั้ง ดูเหมือนใช้เวลาเยอะ แต่คุ้มค่ามากคะ คอร์สครูพบให้หลายอย่างกับคุณแม่และคุณพ่อมาก (คุณแม่ผู้เรียนและถ่ายทอดต่อคุณพ่อ) ได้เอาเคล็ดลับที่ครูพบสอนมาปรับใช้กับกู๊ด รวมทั้งพี่สาวที่แก่กว่าถึง 9 ปี การควบคุมอารมณ์ของพ่อแม่เอง แถมได้เพื่อนที่เป็นพ่อแม่ช้างเผือกที่เรียนด้วยกันทุกวันเสาร์เกือบ 2 เดือนครึ่ง คุยกัน ทำให้เรารู้ว่าบางอย่างลูกเราไม่ได้เป็นคนเดียวนะ ลูกคนอื่นก็เป็น

อนุบาลช้างเผือกเป็นที่ที่ครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทำให้เรารู้สึกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่อบอุ่น เป็นบ้านหลังที่2 ที่เราไว้ใจที่จะฝากดวงใจน้อยๆของเราไว้ ให้เขาได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

ครอบครัวเด็กชาย กุลวัฒน์ ลาชโรจน์